Sathihgphra News

เลขารมว.ยุติธรรม รวมพลังกลไกรัฐสร้างความยุติธรรม ในจชต. 
ที่ห้องประชุมอาคารบูรณาการ กระทรวงยุติธรรม จ.ปัตตานี นาย กูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายกมลศักดิ์  ลีวาเมาะ ประธาน คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ได้เข้าพบหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงยุติธรรมในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ประกอบด้วย ผู้บัญชาการเรือนจังหวัดปัตตานี ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดปัตตานี ยุติธรรมจังหวัดปัตตานี สำนักงานบังคับคดีจังหวัดปัตตานี ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้  สถานพินิจ และคุ้มครองเด็ก เยาวชนจังหวัดปัตตานี เพื่อรับฟังความคิดเห็น  แลกเปลี่ยนปัญหา ในการดำเนินของหน่วยงานยุติธรรมในพื้นที่  พร้อมทั้งได้มอบนโยบายหลักที่สำคัญของกระทรวงยุติธรรมก็คือ ความยุติธรรมต้องเข้าหาประชาชน เพราะที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 20 ปี ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ค่อนข้างจะมีปัญหาในเรื่องของสิทธิมนุษยชน เรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์  ความเสมอภาค ความเท่าเทียม การใช้กฎหมายในพื้นที่ ดังนั้น นโยบายที่สำคัญของกระทรวงยุติธรรม ก็คือ การใช้กฎหมาย ใช้หลักนิติธรรม ให้เกิดความเท่าทียมกันทุกฝ่าย โดยเฉพาะกฎหมายที่เกิดใหม่ ไม่ว่าจะเป็น พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมาน. และการกระทาให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 รวมถึงปัญหาของยาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาที่สำคัญ ซึ่งต้องใช้ความร่วมมือของทุกฝ่ายในการแก้ปัญหา
ด้านนาย กูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อมารับฟังปัญหาของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้  มีปัญหาอะไรที่ต้องปรับปรุง พร้อมทั้งมอบนโยบายในการปฏิบัติ  โดยกการใช้หลักยุติธรรมในการแก้ปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนในเรื่องเร่งด่วนในขณะนี้ก็คือ ปัญหาของยาเสพติด และ ปัญหาในเรื่องสิทธิมนุษยชน โดยทราบกันมาว่า ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ในพื้นที่ 3 จังหวัดเป็นพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงยุติธรรมโดยตรง ในเรื่องความเสมอภาค ความเท่าเทียมกัน และเรื่องสิทธิมนุษยชน โดยในวันนี้ต้องเอาหลักยุติธรรมเข้าหาประชาชน  
ด้านนายกมลศักดิ์  ลีวาเมาะ ประธาน คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ได้กล่าวถึงการยกเลิกพรก.ฉุกเฉินในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ในเรื่องของการต่ออายุพรก.ฉุกเฉิน ครั้งที่ 73 ซึ่งจะเข้าวาระในวันที่ 20 ต.ค.ที่จะถึงนี้ ไม่ใช้เรื่องของกระทรวงยุติธรรมกระทรวงเดียว  กาต่ออายุพรก.ต้องใช้มติ ครม. แต่ตนให้ความเห็นในฐานะ สส.ยังยืนยันในหลักการว่า เห็นควรที่จะมีการยกเลิกพรก.ส่วนวิธีการที่จะยกเลิก เป็นรายอำเภอ หรือเรียงอำเภอ มีมาตรการอย่างไรหลังจากที่มีการยกเลิก ก็จะต้องมีการหารือร่วมกันหลายฝ่าย ทั้งฝ่ายปฏิบัติงานในพื้นที่ แต่หลักการก็คือ เราเห็นด้วยกับการยกเลิก แต่วิธีการที่จะเลิกคราวเดียว หรือกี่อำเภอ ก็ต้องมีมาตรการหลังจากนั้น ซึ่งมีพีน้องประชาชนหลายฝ่ายยังคงเกิดความกังวลว่า หากมีการยกเลิกพรก.ฉุกเฉิน ก็ต้องมีการทำความเข้าใจว่า มตราการการรักษาความปลอดภัยหลังจากมีการยกเลิกพรก. จะมีมาตรการอย่างไร ซึ่งตนเองก็มองว่า พรก.ฉุกเฉิน ไม่ใช้มาตรการในการป้องกัน แต่เป็นเรื่องของการปราบปราม เรานำพรก.ฉุกเฉินมาใช้ในการปราบปราม หลังจากเกิดเหตุเสียส่วนใหญ่ ประเด็นใหญ่ในตอนนี้ก็คือการสร้างความเข้าใจ เราพูดแต่ว่าจะยกเลิก แต่ไม่มีใครเข้าไปทำความเข้าใจ หรือวิธีการในการยกเลิก หรือมาตรการหลังจากมีการยกเลิก ก็ต้องมีการทำความเข้าใจควบคู่กันไป เพราะ พรก.ฉุกเฉินไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดในการป้องกัน  แต่ก็ยังมีกฎหมายอีกไม่ว่าจะเป็น กฎอัยการศึก พรบ.ความมั่นคง แต่พรก.ฉุกเฉิน นั้น ได้มีการศึกษา และมีเสียงสะท้อน ว่าถ้ายกเลิก จะเป็นผลดีในการลดเงื่อนไขที่เกิดขึ้นอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Sathingphra News

Sathingphra News

Sathingphra News