Sathingphra News
ผู้บัญชาการกองทัพเรือ ตรวจเยี่ยม กองทัพเรือภาคที.2พร้อมมอบนโยบายกองทัพเรือได้ตระหนักถึงความสำคัญของบุคลากรมากกว่าสิ่งอื่นใดดังคำที่ว่า
วันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา
ณ ทัพเรือภาคที่ 2 สงขลา พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือพร้อมด้วยคณะได้มาตรวจเยี่ยม ทรภ.2 และมีพลเรือโท นเรศ วงศ์ตระกูล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ทัพเรือภาคที่ 2 พร้อมด้วยกำลังพล นายทหารเรือและจนท.ทหารเรือได้ยืนตั้งแถวให้การต้อนรับ แล้วขณะเดียวกันได้เดินขึ้นชั้น 2 ของตึกเพื่อเข้าห้องประชุม
พล.ร.อ. จิระพล ว่องวิทย์ ผบ.ทร.
ได้เขียนในสมุดตรวจเยี่ยม ทนภ.2 ว่าขอขอบคุณ ผบ.ทรภ.2 และกำลังพลทุกนายที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี อีกทั้งได้บรรยายสรุปให้ทราบถึงการปฏิบัติตามภารกิจของกองทัพเรือและแผนการดำเนินงานตามนโยบายของผู้บัญชาการในวันนี้
ทั้งนี้ การปฏิบัติงานเพื่อปกป้องและรักษาอธิปไตยทางทะเล การรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนนั้น ถือว่าเป็นภารกิจที่สำคัญของกองทัพเรือ มีความสำคัญอย่างมากต่อประเทศชาติและประชาชนโดยส่วนรวมจึงขอให้กำลังพลทุกนายตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ ขอให้ตรวจสอบคำว่า “อำนาจ หน้าที่ และความรับผิดชอบ” ของตนเองให้ครบถ้วน นอกจากนี้ ปีนี้ยังถือเป็นปีแห่งความปลอดภัย “NAVY SAFETY 2025” จึงขอให้ช่วยกันกำกับดูแลทุกส่วนให้เรียบร้อยและเป็นไปตามที่ได้มอบนโยบายไว้
ในโอกาสนี้ ขออวยพรให้เพื่อนข้าราชการและทหารทุกนาย จงประสบผลสำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่ ปราศจากอุปสรรค แคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง และเป็นกำลังสำคัญ ในการป้องกันประเทศ และรักษาความมั่นคงของชาติสืบไป
พล.ร.อ. จิระพล ว่องวิทย์ ผบ.ทร.ได้กล่าวว่า
กองทัพเรือได้ให้ความสำคัญกับบุคลากรของกองทัพเรือเป็นลำดับแรกโดยได้ดำเนินการในด้านต่างๆที่เกี่ยวข้องประกอบด้วยการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี การสนับสนุนบุคลากรของหน่วยที่มีผลการปฏิบัติงานที่ดี การให้สวัสดิการได้แก่ สวัสดิการที่พักอาศัย ความเป็นอยู่ของกำลังพลและครอบครัวสนับสนุนการเรียนรู้พัฒนาตนเองของบุคลากรโดยจัดการฝึกอบรมบุคลากรตามแผนงานอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้กองทัพเรือได้ตระหนักถึงความสำคัญของบุคลากรมากกว่าสิ่งอื่นใดดังคำที่ว่า
“เหล็กในคนสำคัญกว่าเหล็กในเรือ” ในช่วงเวลาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พื้นที่อ่าวไทยตอนล่างได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัดผ่านอ่าวไทยตอนล่างเป็นประจำทุกปีส่งผลให้เกิดคลื่นลมแรง ในส่วนของพื้นที่ทางทะเลกองทัพเรือได้เตรียมความพร้อมของกำลังทางเรือ ร่วมกับ ศรชล.เพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่กรณีประสบภัยทางทะเล และในส่วนของพื้นที่ทางบก โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 2 (ศบภ.ทรภ.2)ได้เตรียมความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ไว้พร้อมช่วยเหลือประชาชนกรณีเกิดภัยพิบัติ โดยได้มีการบูรณาการร่วมกับจังหวัดสงขลา หน่วยงานในพื้นที่ และภาคเอกชน สามารถช่วยเหลือประชาชนที่ประสบ
ภัยพิบัติ ในพื้นที่รับผิดชอบได้ทันท่วงที
กองทัพเรือมีหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ เป็นหน่วยกำลังทางบกรับผิดชอบรักษาความสงบเรียบร้อยและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ ส่วนพื้นที่ทางทะเล กองทัพเรือได้จัดกำลังทางเรือ ในนามทัพเรือภาคที่ ๒ ส่วนหน้า เข้าปฏิบัติงานเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการของกำลังทางบก และสนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อยู่ตลอดเวลา เพื่อดูแลและป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น
ทัพเรือภาคที่ 2 ได้จัดกำลังทางเรือ อากาศยาน
ลาดตระเวน ตรวจการณ์ แสดงกำลังเพื่อป้องปรามการทำผิดกฎหมาย ดูแลความปลอดภัยในเส้นทางเดินเรือและแท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ พร้อมทั้งปกป้องผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างต่อเนื่องในปี 2567 ได้บรรลุผลสำเร็จสำคัญ ได้แก่
- จับกุมเรือประมงต่างชาติที่ลักลอบเข้ามาทำการประมงผิดกฎหมายในน่านน้ำไทย จำนวน 14 ลำ
พร้อมผู้กระทำผิด 69 คน
- จับกุมเรือลักลอบขนสินค้าที่ไม่ผ่านพิธีการศุลกากร จำนวน 1 ลำ พร้อมผู้กระทำผิด 4 คน
การลงพื้นที่ของผู้บัญชาการทหารเรือเป็นการ
ยืนยันให้ประชาชนเห็นถึงความตั้งใจและความใส่ใจในการปฏิบัติภารกิจของกองทัพเรือในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญ ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจว่ากองทัพมีความพร้อมทั้งในด้านบุคลากรและยุทโธปกรณ์ในการดูแลความปลอดภัยและผลประโยชน์ของชาติในพื้นที่ทะเลฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง อีกทั้งช่วยกระตุ้นและสร้างขวัญกำลังใจให้กำลังพลปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ซึ่งส่งผลต่อการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพ และสร้างความมั่นใจให้ประชาชนเห็นว่ากองทัพมีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติงานเพื่อประโยชน์สูงสุดของชาติและประชาชน
ขณะเดี่ยวกัน ผบ.ทร.ได้กล่าวกำชับว่าได้มอบนโยบายที่สำคัญให้แก่ ทรภ. 2 มีประเด็นสำคัญ
1.ขอให้กำลังพลทุกนายมุ่งมั่นตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเทและเต็มกำลังความสามารถ ทั้งในภารกิจปกป้องและรักษาอธิปไตยทางทะเล การดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่กำลังประสบความเดือดร้อน ทั้งหมดนี้ถือเป็นหน้าที่สำคัญและทรงเกียรติที่กำลังพลทุกคนต้องปฏิบัติด้วยความเสียสละและรับผิดชอบสูงสุด
2. ขอให้กำลังพลทุกนายปฏิบัติหน้า ตามอำนาจ หน้าที่ และความรับผิดชอบของตนเองอย่างครบถ้วนสมบูรณ์พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในการปฏิบัติงานทุกขั้นตอน เพื่อร่วมกันทำให้ปีนี้เป็นปีแห่งความปลอดภัยตามเป้าหมาย “NAVY SAFETY 2025” อันจะส่งเสริมให้การปฏิบัติงานของกองทัพเรือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ที่ใดมีภัยที่นั้นต้องมีทหารของกองทัพเรือ
การเตรียมความพร้อมบรรเทาสาธารณภัยทางทะเลสงขลาที่ดูแลในเรื่องการป้องกันภัยในเรื่องต่างๆโดยเฉพาะแล้วก็เป็นเครื่องมือที่สามารถในทะเลได้สามารถส่งผู้ป่วยที่มีเหตุฉุกเฉิน วิกฤติขนส่งจังหวัดประจำจังหวัดมอบหมายให้หน่วยงานที่ใกล้ที่สุดในการเดินทางการรับฟังข้อมูลจากแหล่งไหนมีสิ่งของที่ผิดกฎหมายอยู่ที่ไหนที่มีการขนส่งพื้นที่ ที่ชอบคือพื้นที่ในที่ทะเลการขนส่งผ่านทะเลเราก็จะมีการติดตามจนเห็นก็จะเข้าไปแสดงตัวเข้าจับกุ่มเข้าใช้อำนาจโดยสินค้าหนีภาษีที่ผ่านมาเราสามารถดูแลได้และสร้างความเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานอิ่มนอนอุ่นกันในครั้งมอบมอบนโยบายเน้นย้ำเป็นพิเศษให้ไปยังกำลังพล และอุบัติเหตุอะไรที่มันร้ายแรงหน่วยงานของเราจะมาทำในหลายหลายเรื่องครับเพื่อให้เข้าใจตรงกันอีกอันหนึ่งซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลการดูแลไม่ควรจะมีเหตุร้ายเกินหรือแม้ผู้ฝึกผู้ใกล้ชิดแค่ไหน ระมัดระวังจะดูแลประชาชนอย่างเต็มที่เรื่องขึ้นในพื้นที่ฝนตกไฟไหม้ในเรื่องสำคัญติดต่อเราให้ได้ที่จะช่วยไม่ว่า เรือล่มเรือชนกันทุกพื้นที่ที่ 1465 ใช้ทั่วประเทศแต่ถ้าอยู่ในพื้นที่นี้ก็ไปอยู่ฝั่งวิทยุโทรศัพท์และกำลังคิดอยู่ว่าจะทำแอพขึ้นมาหากประชาชนจะสนใจเพื่อโหลดแอพไปใช้งานติดต่อเราได้สะดวกขึ้น หรือแจ้งตรงมาที